โคนันเดอะมูฟวี่ทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน 2018
เดอะมูฟวี่ที่ 1
คดีปริศนาระเบิดระฟ้า เป็นตอนที่ 1 ของยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ภาคพิเศษ ในตอนนี้พวกโคนันได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานปาร์ตี้ของโมริยะ เทย์จิ สถาปนิกผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมแบบอังกฤษ ต่อมาพวกโคนันได้รับโทรศัพท์ขู่วางระเบิดในหลายสถานที่จากชายปริศนา ภาพยนตร์ตอนนี้ออกฉายในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2540 และออกฉายในโอซาก้า เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2540 กำกับโดยสึวะ มิจิฮิโกะ และเขียนบทโดยโคอุจิ คาซึนาริ ภาคนี้เดิมเคยวางไว้เป็นส่วนหนึ่งของตอนจบของจอมโจรอัจฉริยะ ซึ่งเขียนโดย โกโช อาโอยาม่า เช่นกัน โดยวางไว้ให้เกิดเหตุการณ์ระเบิดทั่วกรุงโตเกียว คู่กับการดำเนินเรื่องที่ คุโด้ ชินอิจิไปเดทกับ โมริ รัน ในสถานที่ที่จะเกิดการระเบิดขึ้น
เดอะมุฟวี่ที่ 2
คดีฆาตกรรมไพ่ปริศนา เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 2 ในตอนนี้เกิดการลอบทำร้ายบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับ โมริ โคโกโร่ โดยใช้ไพ่ เป็นตัวระบุความสัมพันธ์ ซึ่งคล้ายกับคดีฆาตกรรมเอบีซี ที่เขียนโดย อกาธา คริสตีภาพยนตร์ตอนนี้ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2541 กำกับโดยโคดามะ คาเน็ทสึกุ และเขียนบทโดยโคอุจิ คาซึนาริ ภาพยนตร์ตอนนี้ทำเงินได้รวม 1,050 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น
เดอะมูฟวี่ที่ 3
ปริศนาพ่อมดคนสุดท้ายแห่งศตวรรษ เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 3 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2542 สำหรับในประเทศไทยออกอากาศทางฟรีทีวีทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ ในวันที่ 1 มกราคมพ.ศ. 2546 เวลา 08.00-10.00 น. เนื้อหาในตอนนี้ จอมโจรคิด ได้ส่งสาสน์เตือนเพื่อขโมยไข่อิมพีเรียล อีสเต้อร์เอ้ก (หรือ Memory Egg) ไข่กลไกที่สร้างขึ้นโดย ปีเตอร์ คาร์ล ฟาเบลเจ นอกจากนี้ยังมีคดีฆาตกรรมที่โยงไปถึงลูกหลานของ เกรกอรี เยฟิโมวิช รัสปูติน อีกด้วย ภาพยนตร์ตอนนี้ยังคงกำกับโดยโคดามะ คาเน็ทสึกุ และเขียนบทโดยโคอุจิ คาซึนาริ เช่นเดิม ภาพยนตร์ตอนนี้ทำเงินได้รวม 1,450 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น[10]
ภาพยนตร์ตอนนี้เป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในซีรีส์ภาพยนตร์ ของจอมโจรคิด ไฮบาระ ไอ ฮัตโตริ เฮย์จิ และสารวัตรนากาโมริ กินโซ
เดอะมูฟวี่ที่ 4
คดีฆาตกรรมนัยน์ตามรณะ เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 4 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2543 และในประเทศไทยออกอากาศทางฟรีทีวีทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 ครั้ง ในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2547 เวลา 09.30-11.30 น. และในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2548 เวลา 08.00-10.00 น. ในตอนนี้เกิดการฆาตกกรมตำรวจสองนายที่เคยทำคดีร่วมกัน ต่อมาในงานแต่งงานของน้องสาวสารวัตรชิราโทริ นินซาบุโร่ ก็เกิดเหตุลอบสังหารผู้หมวดซาโต้ในห้องน้ำ รันซึ่งเห็นเหตุการณ์ความจำเสื่อม ในขณะที่คนร้ายกำลังจ้องเอาชีวิตรัน โคนันจึงต้องไขคดีฆาตกรรมและปกป้องรันจากคนร้าย ภาพยนตร์ตอนนี้ยังคงกำกับและเขียนบทโดยโคดามะ คาเน็ทสึกุ และโคอุจิ คาซึนาริ และทำเงินได้รวม 2,500 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น
เดอะมูฟวี่ที่ 5
คดีปริศนาเส้นตายสู่สวรรค์ เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 5 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 และในประเทศไทยออกอากาศทางฟรีทีวีทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 ครั้ง ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2547 เวลา 08.00-10.00 น. และวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เวลา 08.00-10.00 น. ในตอนนี้ที่เมืองนิชิตะมาจิ ณ ตึกทวินทาวเวอร์ ตึกแฝดที่สูงที่สุดในเมือง กำลังจะมีงานเปิดตัวตึก แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตึกกลับถูกสังหารไปทีละคน ๆ นอกจากนี้องค์กรชุดดำที่ตามรอยเชอรี่ มาได้ก็มาที่ตึกทวินทาวเวอร์เช่นกัน ต่อมามีการระเบิดตึกทวินทาวเวอร์ นอกจากโคนันต้องไขคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว โคนันยังต้องหลบหนีจากองค์กรชุดดำอีกด้วย ภาพยนตร์ตอนนี้เขียนบทและกำกับโดยทีมงานชุดเดียวกับ 3 ตอนก่อนหน้า และทำเงินได้รวม 2,900 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น
เดอมูฟวี่ที่ 6
คดีปริศนาเส้นตายสู่สวรรค์ เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 5 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 และในประเทศไทยออกอากาศทางฟรีทีวีทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 ครั้ง ในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2547 เวลา 08.00-10.00 น. และวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 เวลา 08.00-10.00 น. ในตอนนี้ที่เมืองนิชิตะมาจิ ณ ตึกทวินทาวเวอร์ ตึกแฝดที่สูงที่สุดในเมือง กำลังจะมีงานเปิดตัวตึก แต่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับตึกกลับถูกสังหารไปทีละคน ๆ นอกจากนี้องค์กรชุดดำที่ตามรอยเชอรี่ มาได้ก็มาที่ตึกทวินทาวเวอร์เช่นกัน ต่อมามีการระเบิดตึกทวินทาวเวอร์ นอกจากโคนันต้องไขคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว โคนันยังต้องหลบหนีจากองค์กรชุดดำอีกด้วย ภาพยนตร์ตอนนี้เขียนบทและกำกับโดยทีมงานชุดเดียวกับ 3 ตอนก่อนหน้า และทำเงินได้รวม 2,900 ล้านเยนในประเทศญี่ปุ่น
เดอะมูฟวี่ที่ 7
คดีฆาตกรรมแห่งเมืองปริศนา เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 7 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2546 ในประเทศไทยออกอากาศทางฟรีทีวีทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในวันหยุดนักขัตฤกษ์ 2 ครั้ง ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 เวลา 08.00-10.00 น. และ วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550[4] เวลา 08.00-10.00 น. ในตอนนี้เกิดการฆาตกรรมที่ผู้ตายมีหนังสือบันทึกโยชิซึเนะ (กิเคคิ) ที่มีปริศนาระบุสถานที่ซ่อนพระพุทธรูปที่หายไปจากวัดซันโน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเกี่ยวกับฮัตโตริ เฮย์จิ ที่เข้ามาสืบคดีนี้เพื่อหาหญิงสาวที่เป็นรักแรกของเขาที่เป็นเจ้าของอัญมณีที่เป็นเป้าหมายของฆาตกร ภาพยนตร์ตอนนี้กำกับโดย โคดามะ คาเน็ทสึกุ เขียนบทโดยโคอุจิ คาซึนาริ และทำรายได้ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 3,200 ล้านเยน
เดอะมูฟวี่ที่ 8
มนตราแห่งรัตติกาลสีเงิน เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์เรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 8 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2547 และออกฉายในประเทศไทยในวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2548 ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน[16] และออกอากาศทางฟรีทีวีทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในช่วงหนังรอบเช้าวันหยุด วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 08.00-10.00 น.[17] ในตอนนี้จอมโจรคิดหมายจะขโมยแหวนแห่งพรหมลิขิต ต่อมาในเที่ยวบินพิเศษมุ่งหน้าสู่ฮาโกดาเตะ เกิดคดีฆาตกรรมนักแสดงสาวโดยการวางยาพิษด้วยกลอุบายจากคนใกล้ชิด ไม่เพียงเท่านั้น นักบิน และผู้ช่วยนักบินก็โดนพิษเช่นกันจนไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ ภาพยนตร์ตอนนี้เป็นการกำกับครั้งแรกของยามาโมโตะ ยาสุอิจิโร่ เขียนบทโดยโคอุจิ คาซึนาริ และทำรายได้ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 2,800 ล้านเยน
เดอะมูฟวี่ที่ 9
ยุทธการเหนือห้วงทะเลลึก เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 9 ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2548 และออกฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม และ 25 มีนาคม พ.ศ. 2549 ที่แกรนด์ อีจีวีเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต และเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ปิ่นเกล้า[19][3] ในตอนนี้ระหว่างการเดินทางของเรืออโฟรไดท์ เรือสำราญอันหรูหรา เกิดคดีฆาตกรรมขึ้น นอกจากนี้คนร้ายยังระเบิดเรือที่มีผู้โดยสารหลายร้อยชีวิต โคนันต้องไขคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นและช่วยรันที่ติดอยู่ในเรือ ภาพยนตร์ตอนนี้ยังคงทีมงานชุดเดียวกับตอนก่อนหน้า และทำรายได้ในประเทศญี่ปุ่นรวมทั้งสิ้น 2,150 ล้านเยน
เดอะมูฟวี่ที่ 10
บทเพลงมรณะแด่เหล่านักสืบ ป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยอดนักสืบจิ๋ว โคนัน ตอนที่ 10 ฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2549 และฉายในประเทศไทยที่โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2549 และออกอากาศทางฟรีทีวีทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ในช่วงหนังรอบเช้า วันที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554 เวลา 08.30-10.25 น. ในตอนนี้ผู้จ้างวานปริศนาได้ขอให้โคโกโร่กับโคนันช่วยไขคดีให้ โดยจับรันและเด็ก ๆ ไว้เป็นตัวประกัน หากทำไม่ได้ ทุกคนจะต้องตาย ภาพยนตร์ตอนนี้กำกับโดยยามาโมโตะ ยาสุอิจิโร่ เขียนบทโดย คาชิวาบาระ ฮิโรชิ โดยตอนนี้มีการประกาศออกมาผ่านทางหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของภาพยนตร์เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2548 เมื่อภาพยนตร์ออกฉาย ภาพยนตร์ทำรายรับได้ 4,685,246 ดอลลาร์สหรัฐ และทำรายได้รวมทั้งสิ้น 3,030 ล้านเยน
เดอะมูฟวี่ที่ 11
ปริศนามหาขุมทรัพย์โจรสลัด (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 紺碧の棺(ジョリー・ロジャー) Meitantei Konan Konpeki no Jorī Rojā (JOLLY ROGER) ?) ; (อังกฤษ: Jolly Roger in the Deep Azure) เป็นภาพยนตร์การ์ตูน ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ฉบับภาพยนตร์ตอนที่ 11 โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 21 เมษายน พ.ศ. 2550 และในประเทศไทยฉายที่โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2550และออกอากาศทางฟรีทีวีทางช่อง 7 ในช่วงหนังรอบเช้า วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2552 [5] [6] เวลา 08.30-10.25 น.มีเนื้อหาเกี่ยวกับเกาะเทพแห่งทะเลอันสวยงามที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ว่ากันว่าโจรสลัดสาวสองคนคือ แอน โบนี่ และ แมรี่ รีดนั้นฝังสมบัติมีค่าเอาไว้ที่เกาะนั้นเมื่อ 300 ปีก่อนในประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างนั้นนักล่าสมบัติที่ลงไปค้นหาสมบัติยังใต้ทะเลก็ถูกฉลามกัดเสียชีวิต ภาพยนตร์ตอนนี้เขียนบทโดยคาชิวาบาระ ฮิโรชิ กำกับโดยยามาโมโตะ ยาสุอิจิโร่ และทำรายได้ไปทั้งสิ้น 2,530 ล้านเยน[24]
บทบรรเลงแห่งความตาย (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 戦慄の楽譜(フルスコア) Meitantei Conan Senritsu no Furu Sukoa (FULL SCORE) ?) ; (อังกฤษ: Full Score of Fear) เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูน ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 12 โดยภาคนี้ออกฉายในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2551 และออกฉายในประเทศไทยในวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2551 [25] ในภาคนี้เกิดเหตุฆาตกรรมและทำร้ายนักดนตรีที่เป็นศิษย์ของนักเปียโน ระหว่างนั้นพวกโคนันได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเปิดตัวโดโมโตะฮอลล์ที่สร้างโดยนักเปียโนคนนั้น แต่ในวันงานโคนันกลับถูกลอบทำร้าย และเกิดระเบิดขึ้นที่ฮอลล์นั้น ภาพยนตร์ตอนนี้มีการประกาศออกมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551[26] และเมื่อภาพยนตร์ออกฉายในโรงภาพยนตร์ 335 แห่ง[7] ภาพยนตร์ตอนนี้ก็ติดอันดับหนึ่งของ Box Office ประเทศญี่ปุ่นในทันทีด้วยรายรับ 420.03 ล้านเยนหรือประมาณ 4,124,013 ดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์แรก[7] มีรายงานว่าภาพยนตร์ตอนนี้ไม่มีการโปรโมตที่กว้างขวางนัก [27] แต่ก็ยังมีแฟน ๆ กว่า 350,000 คนชมภาพยนตร์เรื่องนี้[7] ในรอบปี พ.ศ. 2551ภาพยนตร์ตอนนี้ทำรายรับได้รวมทั้งสิ้น 2,420 ล้านเยน หรือประมาณ 26.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[28][29]
เดอะมูฟวี่ที่ 13
ปริศนานักล่าทรชนทมิฬ (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 漆黒の追跡者(チェイサー) Meitantei Conan Shikkoku no Chasar(CHASER) ?) ; (อังกฤษ: The Raven Chaser) เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูนยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 13 โดยภาคนี้มีกำหนดออกฉายในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2552[30] สำหรับในประเทศไทยเข้าฉายเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2552[31] ที่โรงภาพยนตร์เซ็นจูรี่ ในตอนนี้มีคดีฆาตกรรมต่อเนื่องในหลายพื้นที่ในแถบคันโต ตำรวจในแถบนั้นได้รับเชิญให้เข้าประชุมเรื่องนี้ แต่หลังจากประชุมเสร็จมีคนในตำรวจคนหนึ่งขึ้นรถคันโปรดของยินไป ซึ่งกล่าวได้ว่าโคนันต้องเผชิญหน้ากับองค์กรชุดดำอีกครั้ง[32] สำหรับภาพยนตร์ตอนนี้มีการเปิดเผยชื่อเรื่องและเนื้อเรื่องคร่าว ๆ ตั้งแต่ประมาณช่วงวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551[32] เมื่อภาพยนตร์ออกฉาย ก็สามารถทำรายได้ได้สูงเป็นอันดับหนึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ภาพยนตร์ออกฉาย (วันที่ 18-19 เมษายน)[33] และสามารถทำลายสถิติของภาพยนตร์ชุดโคนันที่ทำรายได้มากที่สุดจากการสรุปรายได้ประจำปีของ RIAJ ด้วยรายได้ 3,500 ล้านเยน[14] แซงหน้าสถิติเดิมที่ภาพยนตร์ตอน ปริศนาบนถนนสายมรณะเคยทำไว้เดิมที่ 3,400 ล้านเยน
เดอะมูฟวี่ที่ 14
ปริศนามรณะเหนือน่านฟ้า (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 天空の難破船(ロスト・シップ) Meitantei Conan Tenkuu no Rosuto Shippu (LOST SHIP) ?) (อังกฤษ: The Lost Ship in the Sky) เป็นตอนพิเศษของภาพยนตร์การ์ตูน ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ตอนที่ 14 โดยภาคนี้ออกฉายในประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2553[34] วันเดียวกับที่อะนิเมะของจอมโจรอัจฉริยะที่สร้างโดยทีเอ็มเอสเอ็นเตอร์เทนเมนต์และแอนิแมกซ์ออกฉายทางโทรทัศน์[35] เมื่อภาพยนตร์ตอนดังกล่าวออกฉาย ภาพยนตร์ดังกล่าวติดชาร์ดของ Kogyo Tsushinsha ที่อันดับสอง และชาร์ตของ Box Office Mojo ที่อันดับสาม โดยเปิดตัวที่รายได้ 5,990,036 ดอลลาร์สหรัฐจากการลงโรงฉาย 352 โรงฉาย[36] และยังยืนชาร์ตด้วยอันดับเดิมมาอีกหนึ่งอาทิตย์[37]
เดอะมูฟวี่ที่ 15
15 นาทีเฉียดวิกฤติมรณะ(ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 沈黙の15分 Meitantei Konan Chinmoku no Kwōtā (Quarter)? ?) (อังกฤษ: Quarter of Silence) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 15 ได้เริ่มเข้าฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อ วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2554
โดยฉบับภาพยนตร์นี้ ถูกฉายผ่านทางโรงภาพยนตร์ ภายหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554 พร้อมทั้งผลกระทบอื่นๆที่ตามมาด้วย โดยภาพยนตร์ชุดนี้ได้ติดอันดับเป็นลำดับที่หนึ่งจากบ็อกออฟิศญี่ปุ่นตั้งแต่ เปิดฉายครั้งแรกในวันที่ 16 - 17 เมษายน พ.ศ. 2554[38]
อำนวยการสร้างโดย ยามาโมโตะ ยาสึอิจิโร กำกับโดยชิซึโนะ โคบุน ร่วมงานกับทีมโคนันเป็นครั้งแรก เคยกำกับ OVA เนกิมะ (2552) หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ (2551) บทภาพยนตร์โดย โคจิ คาซึนาริ (เขียนบทโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 1-5, 7-9, 12-14) ดนตรีประกอบ: โอโนะ คัทสึโอะ
เดอะมูฟวี่ที่ 16
ปริศนาระทึก-ศึกลูกหนังมรณะ (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 11人目のストライカー Meitantei Conan Jūichi Ninme no Sutoraikā? ?) (อังกฤษ: The Eleventh Striker) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 16 มีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555 โดยเนื้อเรื่องหลักเป็นการขู่วางระเบิด ณ สนามแข่งระหว่างทีมโตเกียวสปิริตส์ และทีมบิ๊กโอซาก้า [39]ภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2555 และเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 โดยฉายไปได้ 4 สัปดาห์ รายได้รวมที่ฉายในประเทศไทย [40]
เดอมูฟวี่ที่ 17
ฝ่าวิกฤติเรือรบมรณะ (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 絶海の探偵(プライベット.アイ) Meitantei Conan Zekkai no PURAIBETTO-AI (Private eye) ?) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 17 มีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556 โดยมีเนื้อเรื่องหลักอยู่บนเรือรบของกองกำลังป้องกันตนเอง "อีจิส (Aegis)"หลังจากภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556 ได้ติดอันดับที่ 3 หนังทำเงินในครึ่งปีแรกของประเทศญี่ปุ่น โดยทำรายได้ไปมากกว่า 3,600 ล้านเยน[41] และถือว่าทำรายได้มากที่สุดสำหรับยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ฉบับภาพยนตร์ สำหรับประเทศไทย มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เฉพาะโรงภาพยนตร์บางแห่งเท่านั้น[42]
เดอะมูฟวี่ที่ 18
ปริศนากระสุนมรณะ (ญี่ปุ่น: 名探偵コナン 異次元の狙撃手) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 18 มีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557 กำกับโดย โคบัน ชิสุโนะ บทภาพยนตร์โดย คะสุนะริ โคจิ โดยเนื้อเรื่องหลักเป็นเรื่องราวการซุ่มโจมตีที่เป็นอันตราย และฝ่ายเอฟบีไอเข้ามาเกี่ยวข้อง
หลังจากภาพยนตร์ชุดนี้ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557 ภาพยนตร์ชุดนี้ทำรายได้ที่ 4 พันล้านเยนในประเทศญี่ปุ่นแซง 17 ภาคที่ผ่านมา และถือว่าทำรายได้มากที่สุดสำหรับยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ สำหรับประเทศไทย มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เฉพาะโรงภาพยนตร์บางแห่งเท่านั้น
เดอะมูฟวี่ที่ 19
ปริศนาทานตะวันมรณะ (ญี่ปุ่น: Detective Conan: Sunflowers of Inferno 名探偵コナン 業火の向日葵 Meitantei Konan: Gōka no Himawari ?) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 19 มีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2558 สำหรับประเทศไทย มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558
โดยในเนื้อเรื่องลุงของโซโนโกะชนะการประมูลผลงานเลื่องชื่อของแวน โก๊ะ เป็นภาพวาดดอกทานตะวันที่เคยมอดไหม้ไปพร้อมไฟสงครามที่ญี่ปุ่น ได้ประกาศผ่านโทรทัศน์ว่ามีการจัดนิทรรศการภาพวาดโดยจะนำมาจัดแสดงภาพวาดอกทานตะวันนี้ถึง 7 ภาพ นับเป็นครั้งแรกของโลกภายในหอศิลป์เรย์คล็อก ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูง แล้วได้เรียกตัวผู้คุ้มกันระดับหัวกะทิที่ถูกขนานนามว่ากลุ่มซามูไรทั้ง 7 ให้มาดูแลหนึ่งในนั้นมีโมริ โคโกโร่ด้วย ระหว่างการเตรียมงานนิทรรศการมีการขนภาพวาดดอกทานตะวันทางอากาศจากนิวยอร์กมายังญี่ปุ่น จอมโจรคิดได้กระทำการอุกอาจจนเกือบทำให้ผู้โดยสารถึงแก่ชีวิต ปมปริศนาที่ก่อตัวขึ้นล้วนทำให้โคนันกังขาถึงความจริงว่าใครคือผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังภาพวาดดอกทานตะวันที่อาจทำให้ประวัติศาสตร์โลกต้องถูกเปลี่ยนหน้าไปตลอดกาล
เดอะมูฟวี่ที่ 20
ปริศนารัตติกาลทมิฬ (ญี่ปุ่น: Detective Conan: The Darkest Nightmare 名探偵コナン 純黒の悪夢 Meitantei Konan: Junkoku no Naitomea ?) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 20 โดยเนื้อเรื่องหลักเป็นการลอบสังหารบุคคลทั่วโลก และหญิงมีนัยน์ตาสองสี และความจำเสื่อม ลืมเลือนชื่อเสียงเรียงนามของตนไปทั้งสิ้น โคนันกับผองเพื่อนจึงช่วยนางฟื้นความจำโดยหารู้ไม่ว่าหญิงนั้นคือ คูราโซ (Curaçao) สมาชิกคนใหม่ขององค์กรชุดดำ
มีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559 การตอบรับตลอดสัปดาห์แรกที่เข้าฉาย ภาพยนตร์นี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง มีรายได้รวม 11.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีผู้เข้าชมรวม 934,000 คน[43] และตลอดสามสัปดาห์แรกแห่งการเข้าฉาย ภาพยนตร์มีรายได้รวม 47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าภาพยนตร์ชุดที่แล้ว คือ ปริศนาทานตะวันมรณะ จึงนับเป็นภาพยนตร์ชุดโคนันที่มีรายได้มากที่สุด[1] สำหรับประเทศไทย มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยมี พิชญ์นาฏ สาขากร พากย์เป็นคูราโซ[44]
เดอะมูฟวี่ที่ 21
ปริศนาเพลงกลอนซ่อนรัก (ญี่ปุ่น: Detective Conan: The Crimson Love Letter 名探偵コナン から紅の恋歌 Meitantei Konan: Karakurenai no Raburetā ?) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 21 โดยเนื้อเรื่องหลักเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ของเฮย์จิ,คาซึฮะ กับ หญิงสาวที่อ้างว่าเป็นคู่หมั้นของเฮย์จิ ชื่อว่า โมมิจิ ที่ได้โคจรมาพบพานในการแข่งขันกวีระดับมัธยมปลาย ท่ามกลางความชุลมุนของโคนันที่ต้องเผชิญหน้าทั้ง คดีระเบิดใจกลางของโอซาก้า ฆาตกรรมในแถบชานเมืองเกียวโต พวกเขาและตำรวจของทั้งสองเขต ก็กำลังจะได้ความลับที่เกี่ยวข้องกับ บทกลอนร้อยกวีในไพ่ คารุตะ และ อาจพัวพันถึงความสัมพันธ์ของโคนันกับรันอีกด้วยมีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2560และมีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
เดอะมูฟวี่ที่ 22
ปริศนาเพชฌมาตหมายเลขศูนย์(ญี่ปุ่น: Detective Conan: Zero the Enforcer 名探偵コナン ゼロの執行人 Meitantei Konan: Zero no Shitsukounin ?) เป็นยอดนักสืบจิ๋วโคนันฉบับภาพยนตร์ที่ 22 โดยเนื้อเรื่องหลักเล่าถึงสถานที่ใหม่ในอ่าวโตเกียว "Edge of Ocean" ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดโตเกียว เหตุการณ์ระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเกิดขึ้นที่สถานที่ขนาดมหึมาแห่งนี้ที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจถึง 22,000 คนในวันที่ 1 พฤษภาคมเมื่อมีการจัดประชุมสุดยอด! มีเงาของ อามุโร่ โทรุ ที่เป็นหน่วยงานลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับประเทศว่าเป็น "Zero" ผู้ควบคุมตำรวจรักษาความปลอดภัยทั่วประเทศ โคนันซึ่งไม่สามารถห้ามไม่ให้ระเบิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงหน้าแทนที่จะเป็นวันที่มีการประชุมสุดยอดและพฤติกรรมลับของ อามุโร่ ที่เคลื่อนที่อย่างลับๆในเวลานั้นลายนิ้วมือทิ้งไว้บนหลักฐานของเว็บไซต์ในเวลานั้นคือ โมริ โคโกโร่ ที่เคยเข้าร่วมในกรมตำรวจนครบาล มันตรงกับลายนิ้วมือของ! นี่เป็นสมรู้ร่วมคิดบางอย่างหรือไม่? ไม่เป็นมิตรกับการจับกุมของโคโกโร่ตอนนี้ยังเป็นภาคต่อของ ปริศนารัตติกาลทมิฬ อีกด้วยมีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น